ไม่มีคำว่าสายสำหรับการกลับตัวเป็นคนดี องคุลิมาล จาก ‘มหาโจร’ สู่ ‘พระอรหันต์’

ไม่มีคำว่าสายสำหรับคนที่ต้องการกลับตัวเป็นคนดี เรื่องราวต่อไปนี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล “องคุลิมาล” จาก ‘มหาโจร’ สู่ ‘พระอรหันต์’

องคุลิมาล
องคุลิมาลไล่ฆ่าพระพุทธเจ้า

ในสมัยพุทธกาล เด็กทารกคนนึงนามว่า “อหิงสกะ” ได้เกิดมาบนโลกนี้ พร้อมกับคำทำนายดวงชะตาจากโหราจารย์ทุกท่าน ว่าเด็กน้อยจะมีอนาคตที่ไม่สดใส สร้างความกังวลใจให้กับผู้ให้กำเนิด

อหิงสกะเติบโตมาด้วยความเก่งกาจในทุกวิชา เขาสามารถเรียนรู้ได้ไวกว่าเด็กในรุ่นเดียวกัน ไม่ว่าจะไปเรียนจากสำนักใด ก็จะสำเร็จเคล็ดวิชาเหล่านั้น ทำให้ทุกคนต่างชื่นชมและยกย่องความเก่งกาจในตัวเขา

อย่างไรก็ตามเมื่อใดมีคนรัก เมื่อนั้นย่อมมีคนเกลียด ศิษย์ร่วมสำนักคนนึงอิจฉาอหิงสกะเป็นอย่างมาก จึงเป่าหูอาจารย์ว่าอหิสกะเป็นศิษย์คิดล้างครู ด้วยความหูเบา อาจารย์จึงสั่งให้อหิสกะไปฆ่าคนให้ครบหนึ่งพันคน เพื่อบูชาต่อพระนารายณ์แล้วจะสำเร็จเคล็ดวิชาขั้นสูงสุด

องคุลิมาลตัดนิ้วมาร้อยเป็นมาลัย

ด้วยความเป็นชายที่แบกความหวังของพ่อแม่ จึงทำอย่างเต็มที่เพื่อชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล เขาออกไล่ฆ่าคนและนำนิ้วมือของคนที่ฆ่ามาร้อยเป็นพวงมาลัยห้อยไว้ที่คอเพื่อจะได้รู้ว่าฆ่าไปเท่าไหร่ สิ่งนี้เองทำให้เขาได้ฉายาว่า องคุลิมาล แปลว่า ผู้มีนิ้วมือเป็นมาลัย

ตอนนั้นเขาได้ฆ่าคนไป 999 คนแล้ว เหลือเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นเขาก็จะทำสำเร็จ ขณะนั้นองคุลิมาลเห็นผู้หญิงคนเดินผ่านมา เขาวิ่งวิ่งตามไปหมายจะเอาชีวิตหญิงคนนั้น โดยไม่รู้เลยว่าหญิงคนนั้นเป็นมารดาของเขา

พระพุทธเจ้าผู้มีญาณหยั่งรู้ ได้เห็นว่าอหิงสกะกำลังจะทำบาปหนัก คือการฆ่ามารดาตนเอง ท่านจึงไปขวางไว้ เขาวิ่งตามพระพุทธองค์ที่เคลื่อนตัวด้วยอริยาบทปรกติ แต่วิ่งตามเท่าไหร่ก็ไม่ทัน ด้วยความเหนื่อยเมื่อยล้า จึงตะโกนบอกให้พระพุทธองค์หยุด

องคุลิมาลขอบวชเป็นพระ

พระพุทธองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ เราหยุดแล้ว เราหยุดจากการทำอกุศลอันให้ผลเป็นทุกข์มานานแล้ว ส่วนท่านยังไม่หยุด “ ด้วยความเป็นคนมีปัญญามาก่อนทำให้ องคุลิมาล ฉุกคิดขึ้นมาได้  จึงวางอาวุธลงทั้งหมดและขอออกบวชเป็นพระ

แต่ด้วยการกระทำแต่เก่าก่อนที่เคยไล่ฆ่าฟันผู้คน จึงทำให้องค์คุลีมาลเป็นที่เกลียดชังของชาวบ้าน เมื่อออกบิณฑบาตจึงถูกหินขว้างปาอยู่บ่อยๆ แม่กระนั้นท่านก็ไม่ท้อถอย และอดทนทำความดีต่อไป จนในที่สุด ชาวบ้านก็เห็นในความตั้งใจที่อยากลับตัวเป็นคนดีและยอมให้อภัยท่าน

โดยสรุปเรื่องราวนี้สอนให้รู้ว่า “ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการกลับตัวเป็นคนดี” เพราะเมื่อวันนึง เราพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น และพยายามมากพอ การกระทำเหล่านี้เองจะเป็นเครื่องพิสูจว่าคุณได้เปลี่ยนไปแล้ว

อัลเบิร์ตไอน์สไตน์ ได้กล่าวไว้ว่า “คนที่ไม่เคยทำผิดพลาด คือคนที่ไม่เคยลงมือทำอะไรเลย”

และหวังว่าเรื่องราวเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ขอเป็นกำลังให้กับทุกคนที่เคยผิดพลาด และอยากจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับคนที่ต้องการกลับตัวเป็นคนดี

Leave a Reply

Your email address will not be published.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save